Seagate GoFlex ฮาร์ดดิสก์ แบบไร้สายตัวแรก
https://chipathait.blogspot.com/2014/10/seagate-goflex.html
สมัยก่อนเวลาเราจะเชื่อมต่อส่งข้อมูลจากอีกเครื่องไปอีกเครื่องนึง สิ่งที่ไม่พ้นคือสาย Data ที่จะคอยส่งข้อมูลต่างๆ ไปยังสู่จุดที่เราต้องการ
แต่วิธีนี้สำหรับปัจจุบันเริ่มที่จะกลายเป็นสิ่งที่คนเราคิดว่า ยุ่งยากสายที่จะต่อเชื่อมข้อมูลเข้าหากันดูจะเยอะ หากต้องการเชื่อมต่อกันทีสองถึงสามเครื่องสายคงโยงกันเป็นเถาวัลย์ Seagate เลยลงมือทำการตลาดเพื่อสนองปัญหาที่เกิดขึ้นให้ใช้สบายและสะดวกยิ่งขึ้นกว่าแต่เดิม เลยส่งเจ้า Seagate GoFlex Satelltie ฮาร์ดดิสก์ไร้สายตัวแรกลงสู่ตลาด ด้วยคอนเซปที่ว่า Mobile Wireless Storage
ลักษณะรูปทรงการใช้งานของเจ้า GoFlex ตัวนี้การใช้งานคล้ายกับ External Harddisk ทั่วไปแต่ตัวเครื่องออกจะดูหนากว่าเพราะภายในตัวเครื่องมี Battery แบบ Lithium Ion บรรจุอยู่ อีกทั้งยังใส่ระบบ Wi-fi สำหรับส่งข้อมูลแบบไร้สายไปยังตัวเครื่องทันทีที่เชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็น Laptop , Pc , Mac โดยเฉพาะหากเป็นพวก Smartphone ในระบบ – Android , IOS จะมี App ที่ชื่อว่า GoFlex Access คอยช่วยเสริมระบบที่ส่งผ่านจาก GoFlex มาถึงเครื่องได้แบบไร้สายทันที
สเปคและหน้าตา GoFlex Satellite
1. GoFlex มาพร้อมด้วยส่งและรับข้อมูลด้วยระบบ Wi-Fi แบบ 802.11 b/g/n (รองรับ WPA Security) และสามารถสตรีมมีเดียไฟล์ได้สูงสุด 3 ดีไวซ์ (หรือ 3 เครื่องพร้อมๆกัน) ระยะห่างจากตัวเครื่องส่งไปยังจุดรับนั้นประมาณเมตรห้าสิบโดยประมาณ
2. GoFlex บรรจุขนาดเนื้อที่มาด้วยจำนวนทั้งหมด 500 GB. และขนาดบอร์ดี้คือ 90x120x22 มิลลิเมตร และน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 267 กรัม
3. ฮาร์ดดิสก์ของ GoFlex ยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 3.0/2.0 และฮาร์ดดิสก์ยังมาพร้อมระบบ Seagate G-Force Protection สำหรับการป้องกันการตกกระแทกระหว่างใช้งาน บริเวณด้านซ้ายยังมีช่อง DC In สำหรับเชื่อมต่อกับ Adapter ไฟบ้านเพื่อชาร์จพลังงาน ส่วนด้านขวามือจะเป็นปุ่มกดเพื่อเปืด-ปิดฮาร์ดดิสก์
4. Battery ภายในตัวเครื่องนั้นสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องราว 5 ชั่วโมง และแสตนบายการใช้งานได้ถึง 25 ชั่วโมง
5. แถบไฟการทำงานตรงสัญลักษณ์มุมขวาล่าง ด้านซ้ายนั้นจะเป็นไฟแสดงถึงสถานะแบต เขียวเต็ม ส้มกำลังชาร์จไฟ ส้มเข้าไปจนถึงแดง แบตใกล้หมด ต่อมาด้านขวาเป็นไฟแสดงสถานะของ Wi-Fi เขียวแสตนบาย ฟ้ากำลังเชื่อมต่อ เขียวกระพริบเชื่อมต่อเรียบร้อยพร้อมการใช้งาน
การใช้งานและการส่งผ่านข้อมูลและการส่งและรับข้อมูลของ GoFlex Satellite สามารถแบ่งการทำงานออกได้ทั้งหมด 3 ระบบใหญ่
1. การเชื่อมต่อกับ Laptop , PC หรือ Mac Book ต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์ที่ว่านั้นจะเชื่อมเข้ากับ GoFlex ด้วยระบบ Wi-Fi หลังจากที่เชื่อมสัญญาณกันเสร็จ ทั้งสองจะคอยทำหน้าที่ทั้งรับและส่งข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการทำงานผ่านหน้า Web Browser
2. การเชื่อมต่อการทำงานแบบใช้สายผ่าน Port USB 3.0 ลักษณะการใช้งานคล้ายคลึงกับการใช้ External Harddisk คือจับลากใส่หรือลากข้อมูลใส่เข้าหากัน สามารถทำความเร็วส่งไฟล์ลงได้ประมาณ 22-25MB/s ในส่วนของการเชื่อมผ่าน Mac นั้นทาง Seagate ได้ใส่โปรแกรม Paragon NTFS มาให้ฟรี ๆ เพราะฮาร์ดดิสก์ตัวนี้ได้รับการฟอร์แมตมาในรูปแบบ NTFS ซึ่งเป็นฟอร์แมตของ Windows และซอฟต์แวร์ Paragon NTFS จะช่วยให้ GoFlex Satellite สามารถเข้าใช้งานร่วมกับแมคได้ครบทุกฟังก์ชัน
3. การเชื่อมต่อเข้ากับ Smart Device ต่างๆ เช่น Smartphone , Tablet , Ipad และรอบรับการทำงานผ่าน App
GoFlex Access ที่จะคอยทำหน้าที่บอกถึงหมวดหมู่ที่เราต้องการใช้ได้อย่างสบาย เช่น Music , Movies , Document
การทำงานทั้งสามระบบนี้สามารถทำงานหรือเชื่อมต่อดูหนัง ฟังเพลง ได้พร้อมกันทั้งหมดไม่เกิน 3 เครื่องโดยประมาณ และที่ทาง Seagate โฆษณามาคือ สามารถสตรีมไฟล์หนังระดับ HD (720P) ได้มากกว่า 1 เครื่องแถมลื่นไหลด้วยซิ พร้อมทั้งยังรองรับไฟล์ Media มาตรฐานได้อีกด้วย MP3 , MP4 , Motion-JPEG ,
หรือแม้กระทั้งไฟล์หนังประเภทที่นามสกุลแปลกเช่นพวก WMA , MKV หากพวกเครื่องของผู้ใช้มี App หรือ 3rd Party โปรแกรมที่สามารถเปิดไฟล์พวกนี้ได้ GoFlex Satellite ก็จะสตรีมไฟล์ดูได้เช่นกันแต่ก็ต้องแลกมากับความหน่วงและช้ากว่าไฟล์มาตรฐานด้วยความที่ไฟล์พวกนี้เป็นไฟล์ที่ Bitrate สูงก็อาจทำให้เกิดอาการหน่วงๆ กระตุก เปิดช้ากว่าชาวบ้านได้เช่นกัน
สำหรับไฟล์เอกสาร Microsoft Office , iWork , PDF ก็ทำงานได้เช่นกันเดียว
สรุปการทำงานทั้ง
เหมาะมากสำหรับการทำงานในปัจจุบัน สายนั้นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปถึงแม้ว่าเวลาโอนถ่ายข้อมูลจากเครื่อง PC ลงสู่ GoFlex ยังต้องอาศัยหลักการเดิมๆ คือเชื่อมสายอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หากพูดถึงการแชร์ข้อมูลไปให้คนผู้อื่นแบบไร้สายพร้อมกันทีหลายเครื่องนี้ซิจุดขายใหญ่ของ Seagate การถ่ายโอนข้อมูลทำหน้าที่ได้ดีการแชร์การส่งลื่นไหลดี อีกทั้งที่บอกกันถึงอุปสรรคเวลาเล่นพวกกราฟฟิคหนักๆ เช่น ดูวีดีโอระดับ HD พร้อมกัน ก็ไม่พบบัญหาใดๆ กลับลื่นไหลดีอีกต่างหาก
ข้อดี
1. แชร์ข้อมูลได้พร้อมกันหลายเครื่อง
2. กลายเป็นส่วนขยายของพวก Smartphone ที่ไม่สามารถเพิ่มความจุได้
3. ใช้ Port USB 3.0 ในการเชื่อมต่อข้อมูลช่วยให้มีความถี่รับส่งสูง
4. การใส่ส่วนจัดการผ่านเว็บบราวเซอร์มาให้ ทำให้ผู้ใช้สามารถนำจุดเด่นส่วนนี้ไปประยุกต์ใช้ในการเปิดไฟล์มีเดียร่วมกับแอปฯ 3rd Party ซึ่งแอปฯ พื้นฐานไม่รองรับได้
5. มีโปรแกรมรองรับการทำงานบนระบบ Mac แถมฟรีอีกต่างหากมาพร้อมในตัว GoFlex Satellite
6. สามารถสตรีมไฟล์วีดีโอระดับ HD ได้ลื่นไหลพร้อมกันได้มากกว่า 1 เครื่อง
ข้อเสนอแนะ
1. ในระหว่างที่เชื่อม Wi-Fi ไปยัง PC หรือ Smart – Device ต่างๆ จะไม่สามารถเล่น Internet ได้
2. ระหว่างส่งข้อมูลไปยังเครื่องต่างจาก GoFlex Satellite ไม่สามารถสตรีมข้อมูลไปยังเครื่องอื่นได้
3. ยังต้องอาศัยการรับข้อมูลจาก PC ผ่านสาย Port USB อยู่
4. ความจุยังดูน้อยไปหากเทียบกับราคา
5. ราคายังสูงอยู่
บทส่งท้าย
โดยส่วนตัวคิดว่าน่าซื้อติดตัวไว้ใช้แน่นอนหากมีโอกาส เพราะคิดว่าสะดวกไม่ต้องพกสายให้เยอะ สายเดียวก็พอจากนั้นก็ปล่อยให้เทคโนโลยีจัดการในตัวให้เสร็จจบทีเดียว แต่ติดตรงเรื่องเราคาและความจุหากทำออกมาซัก 1 TB. แล้วราคาไม่เกินซัก 4,500 บาท (หากเป็นไปได้) คิดว่ากำลังสวยและผู้บริโภคน่าจะหันมามองกันเยอะขึ้นเลยทีเดียว
แต่วิธีนี้สำหรับปัจจุบันเริ่มที่จะกลายเป็นสิ่งที่คนเราคิดว่า ยุ่งยากสายที่จะต่อเชื่อมข้อมูลเข้าหากันดูจะเยอะ หากต้องการเชื่อมต่อกันทีสองถึงสามเครื่องสายคงโยงกันเป็นเถาวัลย์ Seagate เลยลงมือทำการตลาดเพื่อสนองปัญหาที่เกิดขึ้นให้ใช้สบายและสะดวกยิ่งขึ้นกว่าแต่เดิม เลยส่งเจ้า Seagate GoFlex Satelltie ฮาร์ดดิสก์ไร้สายตัวแรกลงสู่ตลาด ด้วยคอนเซปที่ว่า Mobile Wireless Storage
ลักษณะรูปทรงการใช้งานของเจ้า GoFlex ตัวนี้การใช้งานคล้ายกับ External Harddisk ทั่วไปแต่ตัวเครื่องออกจะดูหนากว่าเพราะภายในตัวเครื่องมี Battery แบบ Lithium Ion บรรจุอยู่ อีกทั้งยังใส่ระบบ Wi-fi สำหรับส่งข้อมูลแบบไร้สายไปยังตัวเครื่องทันทีที่เชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็น Laptop , Pc , Mac โดยเฉพาะหากเป็นพวก Smartphone ในระบบ – Android , IOS จะมี App ที่ชื่อว่า GoFlex Access คอยช่วยเสริมระบบที่ส่งผ่านจาก GoFlex มาถึงเครื่องได้แบบไร้สายทันที
สเปคและหน้าตา GoFlex Satellite
1. GoFlex มาพร้อมด้วยส่งและรับข้อมูลด้วยระบบ Wi-Fi แบบ 802.11 b/g/n (รองรับ WPA Security) และสามารถสตรีมมีเดียไฟล์ได้สูงสุด 3 ดีไวซ์ (หรือ 3 เครื่องพร้อมๆกัน) ระยะห่างจากตัวเครื่องส่งไปยังจุดรับนั้นประมาณเมตรห้าสิบโดยประมาณ
2. GoFlex บรรจุขนาดเนื้อที่มาด้วยจำนวนทั้งหมด 500 GB. และขนาดบอร์ดี้คือ 90x120x22 มิลลิเมตร และน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 267 กรัม
3. ฮาร์ดดิสก์ของ GoFlex ยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 3.0/2.0 และฮาร์ดดิสก์ยังมาพร้อมระบบ Seagate G-Force Protection สำหรับการป้องกันการตกกระแทกระหว่างใช้งาน บริเวณด้านซ้ายยังมีช่อง DC In สำหรับเชื่อมต่อกับ Adapter ไฟบ้านเพื่อชาร์จพลังงาน ส่วนด้านขวามือจะเป็นปุ่มกดเพื่อเปืด-ปิดฮาร์ดดิสก์
4. Battery ภายในตัวเครื่องนั้นสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องราว 5 ชั่วโมง และแสตนบายการใช้งานได้ถึง 25 ชั่วโมง
5. แถบไฟการทำงานตรงสัญลักษณ์มุมขวาล่าง ด้านซ้ายนั้นจะเป็นไฟแสดงถึงสถานะแบต เขียวเต็ม ส้มกำลังชาร์จไฟ ส้มเข้าไปจนถึงแดง แบตใกล้หมด ต่อมาด้านขวาเป็นไฟแสดงสถานะของ Wi-Fi เขียวแสตนบาย ฟ้ากำลังเชื่อมต่อ เขียวกระพริบเชื่อมต่อเรียบร้อยพร้อมการใช้งาน
การใช้งานและการส่งผ่านข้อมูลและการส่งและรับข้อมูลของ GoFlex Satellite สามารถแบ่งการทำงานออกได้ทั้งหมด 3 ระบบใหญ่
1. การเชื่อมต่อกับ Laptop , PC หรือ Mac Book ต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์ที่ว่านั้นจะเชื่อมเข้ากับ GoFlex ด้วยระบบ Wi-Fi หลังจากที่เชื่อมสัญญาณกันเสร็จ ทั้งสองจะคอยทำหน้าที่ทั้งรับและส่งข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการทำงานผ่านหน้า Web Browser
2. การเชื่อมต่อการทำงานแบบใช้สายผ่าน Port USB 3.0 ลักษณะการใช้งานคล้ายคลึงกับการใช้ External Harddisk คือจับลากใส่หรือลากข้อมูลใส่เข้าหากัน สามารถทำความเร็วส่งไฟล์ลงได้ประมาณ 22-25MB/s ในส่วนของการเชื่อมผ่าน Mac นั้นทาง Seagate ได้ใส่โปรแกรม Paragon NTFS มาให้ฟรี ๆ เพราะฮาร์ดดิสก์ตัวนี้ได้รับการฟอร์แมตมาในรูปแบบ NTFS ซึ่งเป็นฟอร์แมตของ Windows และซอฟต์แวร์ Paragon NTFS จะช่วยให้ GoFlex Satellite สามารถเข้าใช้งานร่วมกับแมคได้ครบทุกฟังก์ชัน
3. การเชื่อมต่อเข้ากับ Smart Device ต่างๆ เช่น Smartphone , Tablet , Ipad และรอบรับการทำงานผ่าน App
GoFlex Access ที่จะคอยทำหน้าที่บอกถึงหมวดหมู่ที่เราต้องการใช้ได้อย่างสบาย เช่น Music , Movies , Document
การทำงานทั้งสามระบบนี้สามารถทำงานหรือเชื่อมต่อดูหนัง ฟังเพลง ได้พร้อมกันทั้งหมดไม่เกิน 3 เครื่องโดยประมาณ และที่ทาง Seagate โฆษณามาคือ สามารถสตรีมไฟล์หนังระดับ HD (720P) ได้มากกว่า 1 เครื่องแถมลื่นไหลด้วยซิ พร้อมทั้งยังรองรับไฟล์ Media มาตรฐานได้อีกด้วย MP3 , MP4 , Motion-JPEG ,
หรือแม้กระทั้งไฟล์หนังประเภทที่นามสกุลแปลกเช่นพวก WMA , MKV หากพวกเครื่องของผู้ใช้มี App หรือ 3rd Party โปรแกรมที่สามารถเปิดไฟล์พวกนี้ได้ GoFlex Satellite ก็จะสตรีมไฟล์ดูได้เช่นกันแต่ก็ต้องแลกมากับความหน่วงและช้ากว่าไฟล์มาตรฐานด้วยความที่ไฟล์พวกนี้เป็นไฟล์ที่ Bitrate สูงก็อาจทำให้เกิดอาการหน่วงๆ กระตุก เปิดช้ากว่าชาวบ้านได้เช่นกัน
สำหรับไฟล์เอกสาร Microsoft Office , iWork , PDF ก็ทำงานได้เช่นกันเดียว
สรุปการทำงานทั้ง
เหมาะมากสำหรับการทำงานในปัจจุบัน สายนั้นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปถึงแม้ว่าเวลาโอนถ่ายข้อมูลจากเครื่อง PC ลงสู่ GoFlex ยังต้องอาศัยหลักการเดิมๆ คือเชื่อมสายอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หากพูดถึงการแชร์ข้อมูลไปให้คนผู้อื่นแบบไร้สายพร้อมกันทีหลายเครื่องนี้ซิจุดขายใหญ่ของ Seagate การถ่ายโอนข้อมูลทำหน้าที่ได้ดีการแชร์การส่งลื่นไหลดี อีกทั้งที่บอกกันถึงอุปสรรคเวลาเล่นพวกกราฟฟิคหนักๆ เช่น ดูวีดีโอระดับ HD พร้อมกัน ก็ไม่พบบัญหาใดๆ กลับลื่นไหลดีอีกต่างหาก
ข้อดี
1. แชร์ข้อมูลได้พร้อมกันหลายเครื่อง
2. กลายเป็นส่วนขยายของพวก Smartphone ที่ไม่สามารถเพิ่มความจุได้
3. ใช้ Port USB 3.0 ในการเชื่อมต่อข้อมูลช่วยให้มีความถี่รับส่งสูง
4. การใส่ส่วนจัดการผ่านเว็บบราวเซอร์มาให้ ทำให้ผู้ใช้สามารถนำจุดเด่นส่วนนี้ไปประยุกต์ใช้ในการเปิดไฟล์มีเดียร่วมกับแอปฯ 3rd Party ซึ่งแอปฯ พื้นฐานไม่รองรับได้
5. มีโปรแกรมรองรับการทำงานบนระบบ Mac แถมฟรีอีกต่างหากมาพร้อมในตัว GoFlex Satellite
6. สามารถสตรีมไฟล์วีดีโอระดับ HD ได้ลื่นไหลพร้อมกันได้มากกว่า 1 เครื่อง
ข้อเสนอแนะ
1. ในระหว่างที่เชื่อม Wi-Fi ไปยัง PC หรือ Smart – Device ต่างๆ จะไม่สามารถเล่น Internet ได้
2. ระหว่างส่งข้อมูลไปยังเครื่องต่างจาก GoFlex Satellite ไม่สามารถสตรีมข้อมูลไปยังเครื่องอื่นได้
3. ยังต้องอาศัยการรับข้อมูลจาก PC ผ่านสาย Port USB อยู่
4. ความจุยังดูน้อยไปหากเทียบกับราคา
5. ราคายังสูงอยู่
บทส่งท้าย
โดยส่วนตัวคิดว่าน่าซื้อติดตัวไว้ใช้แน่นอนหากมีโอกาส เพราะคิดว่าสะดวกไม่ต้องพกสายให้เยอะ สายเดียวก็พอจากนั้นก็ปล่อยให้เทคโนโลยีจัดการในตัวให้เสร็จจบทีเดียว แต่ติดตรงเรื่องเราคาและความจุหากทำออกมาซัก 1 TB. แล้วราคาไม่เกินซัก 4,500 บาท (หากเป็นไปได้) คิดว่ากำลังสวยและผู้บริโภคน่าจะหันมามองกันเยอะขึ้นเลยทีเดียว