จุดยืนที่ชัดเจนของ Apple
https://chipathait.blogspot.com/2014/09/apple.html
มันก็เป็นการตลาดธรรมดาที่บริษัท Apple ใช้แล้วประสบความสำเร็จ คือการกำหนดจุดยืนให้สินค้าตัวเองได้อย่างชัดเจน
ที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็น apple ออกมาประกาศว่ามือถือตัวเองมีสเปคอะไรยังไง นั่นเพราะ apple "ไม่ได้ขายสเปค"
แต่หากดูจากการตั้งราคาสินค้าและรูปแบบการใช้งาน สิ่งที่ apple ขายคือ "การใช้งาน" และ "ความหรูหรา" มากกว่า
การเปิดตัวไอโฟน 6 ที่ผ่านมายิ่งชัดเจน
- iPhone 6 ราคาระดับเดิม ปรับขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นตามความต้องการของตลาด หลายคนเหน็บว่ากลืนน้ำลายตัวเอง เมื่อก่อนทำจอเล็กเพื่อจุดยืน มือถือต้องใช้งานสะดวกด้วยมือเดียวจริงครับ แต่สุดท้ายมันก็ต้องไหลไปตามความต้องการของตลาดเป็นหลัก อันนี้เป็นหลักการตลาดง่ายๆ
- iPhone 6+ ผลิตมาเพื่อตลาดมือถือจอใหญ่โดยเฉพาะ ตั้งชนกับ Note4 แน่นอน และวางจุดยืนให้สินค้าคือ "หรูกว่า iPhone6"
ดูได้จากราคาที่สูงกว่า เพิ่ม OIS เข้ามา หน้าจอชัดและใหญ่กว่า
- Apple Pay นี่เป็นนวัตกรรมการนำ NFC เข้าใช้เพื่อความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น จากจุดนี้คงทำให้จุดยืน iPhone6 ชัดเจนยิ่งขึ้นในด้าน การใช้งาน และ ความหรูหรา หลายคนดราม่า NFC มีมาตั้งนานละ ทำไมเพิ่งมาใช้ ตามหลังแอนดรอยด์.. ก็ว่ากันไป แต่ที่นำ NFC เข้ามาหนนี้ก็เพื่อ Apple Pay นี่แหละครับ เขาไม่ได้แคร์ว่าใครจะมีก่อนมีหลัง เขาแคร์ตรงที่ Apple Pay จะทำกำไรให้เขามากน้อยแค่ไหนต่างหาก และนี่ถือเป็นการบุกเบิกการจ่ายเงินด้วยบัตรผ่านมือถือเจ้าแรกซะด้วย
พูดถึงเรื่องการใช้งาน หลายคนคงสงสัยว่าทำไม ไม่ให้แรมมากกว่านี้ ทำไมกล้องให้มาแค่ 8 ล้าน ทำไมความจุแบตถึงได้ไม่มากเท่าเจ้าอื่น
อย่างที่บอกครับว่า apple "ไม่ได้ขายสเปค" แรมมากแรมน้อยมันดูที่การใช้งาน ส่วนจะลื่นไหลแค่ไหนอันนี้ผู้ซื้อตัดสิน
กล้อง 8 ล้าน มันก็กล้องมือถือ เอาไว้ดูในมือถือ พิกเซลเยอะไปก็มีแต่ทำให้ไฟล์ใหญ่ขึ้น เขาจึงไปเน้นที่เซนเซ่อร์ การลดน้อยซ์ คุณภาพของภาพ การถ่ายวีดีโอ มากกว่าเน้นไปที่จำนวนพิกเซล แบตให้มาเท่านั้นก็ดูการกินพลังงานของ Hardware และ software ที่ใช้ ส่วนจะเพียงพอแค่ไหน ผู้ซื้อก็ตัดสินเอาเอง เหล่านี้ก็ชัดเจนว่า จุดยืนของ apple คือการใช้งาน ไม่ใช่การอัดสเปคให้สูงๆบนหน้ากระดาษ
ดูได้จากซัมซุง ที่เริ่มอัดสเปคไม่ได้แล้วสุดท้ายมันขึ้นกับการตอบสนองการใช้งานได้เพียงพอแล้ว มันก็จบ
และมันมาลงที่ผลกำไรครับ จะเห็นว่ากำไรของ apple ก็เพิ่มขึ้นทุกปี นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
อย่างที่บอก Apple ไม่ได้ขายสเปค แต่ ขายการใช้งาน และกลุ่มลูกค้า apple มีความซื่อสัตย์ในแบรนด์สูงซะด้วย
ก็เพราะจุดยืนภาพลักษณ์ที่ apple สร้างขี้นมานี่แหละครับ
ดูได้จากการเปิดตัว Note4 ที่ไม่ได้กล่าวถึงสเปคเลย แต่จะพูดถึงการใช้งานและฟังค์ชั่นต่างๆที่ให้มามากกว่า
ซัมซุงเองก็คงเริ่มมามองจุดนี้ เพราะขายสเปคสุดท้ายก็มีแต่ตัน
ดังนั้นแล้วอย่าเถียงกันเลยครับว่าใครดีกว่าใคร เพราะมันไม่มีประโยชน์ ระดับบริษัทพวกนี้เขาทำอะไรมองเป็นภาพรวมครับ เขาทำเพื่อผลกำไรสูงสุด
เราในฐานะผู้บริโภคจึงเป็นเรื่องที่ดีที่มีทางเลือกมากขึ้นและมีนวัตกรรมการใช้งานที่หลากหลายและสะดวกปลอดภัยมากขึ้น มันตอบสนองแต่ละคนได้ไม่ตรงกันแน่นอน แค่เลือกในสิ่งที่ตอบสนองตนเองได้ดีที่สุดครับ
***ขอเพิ่มเติมขยายความจุดยืน "การใช้งาน" และ "หรูหรา" ที่ Apple สร้างขึ้นมานิดนึงครับเห็นหลายคอมเม้นท์ตีความผิด
-เน้นการใช้งาน คือ user experience ที่ดี ไม่ซับซ้อน ใช้งานง่าย รวมไปถึงระบบ ecosystem ของ iOS
ระบบ app store รวมไปถึงคุณภาพของ Applications ที่อยู่บน App Store ที่มีคุณภาพดี และที่สำคัญระบบบริการหลังการขายที่ให้บริการลูกค้าด้วยความจริงใจ ไม่เอ่ะอ่ะอะไรก็เปลี่ยนบอร์ดๆเต่าเอือม เหมือนบางยี่ห้อ
-หรูหรา คือความรู้สึกดี ภูมิใจที่ได้ใช้งาน วัสดุ สี ที่ใช้ การนำเสนอ การโฆษณาที่โดดเด่น ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น การเปิดตัวไอโฟน"สีทอง" นี่ชัดเจนครับ สร้างความรู้สึกหรูหราขึ้นมาทันที แล้วเจ้าอื่นก็ทำ Gold edition กันใหญ่
ส่วน user ท่านใดที่ไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ apple แต่ไม่รู้สึกไปตามจุดยืนที่สร้างขึ้นมาก็กรุณาอย่าเอาความรู้สึกนั้นของตนเองมาตัดสินครับ
เช่นที่บอกว่า ไม่เห็นรู้สึกหรูเลยเด็กปั๊มก็ใช้ ผ่อน 0% โน่นนี่นั่น ก็ไม่เป็นไรครับ คิดซะว่าคุณไม่ใช่ target customer แล้วกัน
ที่มา pantip