Tips:มาเพิ่มความปลอดภัยให้ Apple ID ด้วย Two-step verification
http://chipathait.blogspot.com/2014/07/tips-apple-id-two-step-verification.html
ในยุคหลังๆ มานี้ หลายคนคงสังเกตได้เลยว่าเราฝากชีวิตกันไว้บนโลกออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแชท, การคุยงาน, โอนเงิน, ซื้อของ, ดูหนัง, ฟังเพลง เรียกได้ว่าทำได้หลายอย่างมากๆ
สำหรับ iPhone/iPad ของเราเองก็เช่นกัน จะเห็นได้ว่าเราใช้ Apple ID ในการโหลดแอพ, ซื้อเพลง, ใช้งาน iCloud, ติดตามตำแหน่งเราใน Find My iPhone, ใช้แสดงความเป็นเจ้าของเครื่องใน Activation Lock และสำหรับบางคนอาจจะมีข้อมูลบัตรเครดิตที่สามารถกดซื้อของได้ ดังนั้น Apple ID สำหรับ iPhone/iPad จึงเป็นอะไรที่สำคัญมาก และคงไม่ดีแน่ๆ ถ้าหากมีใครที่สามารถแอบมา Log in เข้ามาใช้งาน Apple ID เรา
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น Apple จึงได้เพิ่มทางเลือกระบบความปลอดภัยแบบใหม่ในการ Sign In เข้าใช้งาน Apple ID นั่นก็คือการตรวจสอบ 2 ชั้นหรือ Two-step verification นั่นเอง
Two-step verification คืออะไร? จะช่วยให้ปลอดภัยขึ้นอย่างไร?
ลองนึกภาพการจะ Sign In บริการอะไรซักอย่างในปัจจุบัน เราก็แค่กรอก password แล้วก็สามารถเข้าสู่ระบบได้เลยใช่ไหมครับ ปัญหาก็คือปัจจุบันมีเว็บและบริการหลากหลายมากที่ต้อง Sign In เชื่อเลยว่าทุกคนก็ตั้ง password ของทุกเว็บเหมือนๆ กันไปหมด
ซึ่งถ้าเว็บไหนโชคร้ายโดยแฮคแล้วผู้ไม่ประสงค์ดีรู้ password เราขึ้นมา คราวนี้ก็แทบจะเข้าไปใช้งานบริการต่างๆ ของเราที่เป็น password เดียวกันได้เลย
ระบบ Two-step Verification จึงเป็นระบบที่จะเสริมความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้นนึง คือนอกจากจะรู้ password ของเราแล้ว ตอนที่ Sign In ระบบจะทำการส่งรหัสมาให้เราผ่านทาง sms มายังโทรศัพท์มือถือของเราที่ตั้งเอาไว้ ซึ่งรหัสนี้จะเป็นรหัสที่ใช้งานครั้งเดียว (OTP : One Time Password) ซึ่งต้องใช้รหัสนี้ใครการ Sign In ด้วย
ดังนั้นต่อให้รู้ password แต่ไม่รู้รหัส OTP ก็จะไม่สามารถเข้าใช้งานได้อยู่ดีครับ ซึ่งเราคงไม่ได้ปล่อยมือถือเราให้ไปอยู่กับคนอื่นเท่าไหร่กันอยู่แล้ว จึงเป็นระบบที่เพิ่มความปลอดภัยขึ้นมาอีกขั้นนึง จริงๆ แล้วระบบ Two-Step Verification ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่เท่าไหร่ครับ เพราะระบบนี้นิยมใช้การในการทำธุรกรรมทางการเงินประเภท Internet Banking อยู่ก่อนแล้วนั่นเอง
วิธีการตั้งค่า Two-Step Verification
วิธีการเปิดการ Two-Step Verification นั้นก็ไม่ยุ่งยาก แต่อาจจะมีหลายขั้นตอนซักหน่อย เรามาทำตามไปด้วยกันเลยครับ ที่สำคัญคืออ่านรายละเอียดของแต่ละขึ้นตอนให้ครบถ้วนด้วยนะครับ
1. เข้าเว็บ Apple สำหรับจัดการ Apple ID
เราจะเปิดใช้งาน Two-step verification ผ่านทางหน้าเว็บของ appleid.apple.com ครับ โดยเข้าไปที่หน้าจัดการ Apple ID เมื่อเข้ามาแล้วก็ Sign In เพื่อเข้าสู่ระบบเลย (สำหรับใครที่ตั้ง password ที่ไม่ปลอดภัยมากพอ เมื่อ Sign in เข้ามาแล้วอาจจะมีการให้ตั้ง password ใหม่ที่มีต้องมีตัวอักษรพิมพ์เล็ก, พิมพ์ใหญ่และตัวเลขผสมอยู่ แต่ถ้าไม่ขึ้นก็ไปขั้นตอนถัดไปได้เลยครับ)
2. เลือกแท็บ “Password and Security”
เมื่อเข้ามาแล้ว ที่แท็บทางด้านซ้ายมือจะมีหัวข้อ “Password and Security” หรือ “รหัสผ่านและความปลอดภัย”
เมื่อเลือกแล้วจะเห็นหัวข้อ “Two-step verification” หรือ “การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนอยู่” ให้เลือกที่ “Get Started…” ได้เลยครับ
3. หน้าอธิบายว่า Two-step verification คืออะไร
จะมีหน้าอธิบายว่า Two-step verification ในหน้านี้ให้กด Continue ครับ
4. หน้าอธิบายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงหลังตั้ง Two-step verification
- เมื่อเปิดการตั้งรหัส 2 ชั้นจะไม่ใช้คำถามเพื่อความปลอดภัย (ที่หลายคนจำไม่ได้นั่นเอง)
- รีเซตรหัสผ่านได้ต้องใช้มือถือเพื่อรับรหัสยืนยันตัวตนก่อน
- ถ้าหากลืมพาสเวิร์ด สามารถรีเซ็ตพาสเวิร์ดได้ด้วย Recovery Key (รหัสการกู้คืน)
กด Continue ต่อเช่นกัน
5. สิ่งที่ต้องทราบสำหรับการตั้ง Two-step verification
หลังจากเปิดใช้งาน Two-step verification แล้ว มีสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ดังนี้
- Password
- โทรศัพท์มือถือไว้รับพาสเวิร์ด
- Recovery Key (รหัสการกู้คืน) จะแจกให้ในหน้าถัดไป
เมื่ออ่านข้อมูลเข้าใจเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็กด Get Started ได้เลยครับ
หลังจากหน้านี้ จะพบกับหน้าที่ให้รอ เปิดใช้งานเป็นเวลา 3 วัน (อ่านไม่ผิดครับ) ซึ่งเมื่อครบ 3 วันแล้วทาง Apple จะส่ง Email ไปเพื่อแจ้งว่าสามารถตั้งค่า Two-Step verification ได้แล้ว เราจึงค่อยกลับมาตั้งค่ากันต่อครับ โดยจะเริ่มจากขั้นตอนที่ 1-5 ใหม่อีกรอบนึงเลย
6. ตั้งเบอร์โทรที่จะให้ส่งรหัสไปหา
ขั้นตอนนี้ จะให้เราตั้งเบอร์โทรศัพท์ ที่จะให้ส่ง sms ไปบอกรหัสครับ โดยเบอร์นี้ควรจะเป็นเบอร์ของเราที่เราใช้เองตลอดเวลาและเป็นเครื่องที่อยู่ติดตัว เพราะเวลาจะ login อะไรก็ตามที่ใช้ Apple ID ระบบจะทำการส่งรหัสมาที่เครื่องนี้หมดครับ โดยเลือกที่ Add a phone number
หลังจากนั้นจะมีหน้ามาให้ใส่เบอร์โทรศัพท์ อย่าลืมเลือกประเทศให้ถูกต้องด้วยนะครับ (sms บอกรหัสผ่านที่ส่งมาไม่เสียเงินนะครับ)
หลังจากเพิ่มเบอร์เสร็จแล้วก็กด Continue ต่อได้เลย
7. เก็บ Recovery Key
เพื่อความปลอดภัย ระบบ two-step Verification จึงมี Recovery Key ที่จะเป็นคีย์สำหรับใช้เมื่อเราลืมพาสเวิร์ด หรือเกิดเหตุการที่มือถือเราหายแล้วต้องใช้งาน Apple ID พอดี
Recovery Key จึงเป็นคีย์สำรองที่จะทำให้เราสามารถเข้าใช้งาน Apple ID ได้ในยามฉุกเฉิน ดังนั้นจึงต้องเก็บไว้ให้ดีครับ โดยเราจำเป็นจะต้องจดหรือปริ้นท์รหัสผ่านนี้ไว้ใส่กระดาษแล้วเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัยครับ (เพราะสำคัญมาก)
เมื่อจดคีย์เรียบร้อยแล้วก็กด Continue ได้เลย
8. กรอก Recovery Key อีกรอบ
เพื่อเป็นการยืนยันว่าได้จด Recovery Key ไว้แล้วจริงๆ ระบบจะให้เราทำการกรอก Recovery Key ในหน้าเมื่อซักครู่นี้ใหม่อีกครั้งครับ
9. เตือนเกี่ยวกับการเปิด Two-step verification อีกครั้ง
หลังจากนั้นจะมีหน้าเตือนเกี่ยวกับการใช้งาน two-step verification อีกครั้งหนึ่ง (แนะนำว่าควรตั้งใจอ่านซักนิดนัง เพราะค่อนข้างสำคัญเลยครับ)
เมื่อเข้าใจแล้วก็ติ๊ก I understand แล้วกด Enable two-step verification ได้เลยครับ
แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ
หลังจากเปิด two-step verification แล้วคราวนี้ถ้าเราจะ Login เพื่อดูข้อมูลของ Apple ID ในเว็บ, หรือ Sign in เพื่อซื้อของใน App Store, iTunes Store (เฉพาะครั้งแรกบนเครื่องใหม่) ก็จะมีให้ยืนยัน 2 ชั้นผ่านการส่งรหัสมาทาง sms ครับ
ที่มา iphonesociety.com
ที่มา iphonesociety.com













